งานศิลปะจาก AI ลิขสิทธิ์เป็นของใคร ศิลปินปรับตัวอย่างไรเมื่อ AI ครองโลก

SHARE TO

เมื่อ AI เข้ามามีบทบาทในงานด้านศิลปะมากขึ้น โจทย์ใหญ่ของมนุษยชาติเกี่ยวกับ “ลิขสิทธิ์” ในงานศิลปะที่สร้างโดย AI ที่วันนี้ยังฝุ่นตลบ หาข้อสรุปไม่ได้ ในต่างประเทศมีการยื่นเรื่องขอจดลิขสิทธิ์ผลงานจาก AI อย่างต่อเนื่อง จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายในการแสวงหาคำตอบ ว่ายังมีความจำเป็นอยู่หรือไม่ที่การจด “ลิขสิทธิ์” ต้องเกิดจากกระบวนการใช้ความคิด การลงมือทำ ที่เป็นฝีมือของมนุษย์ล้วน ๆ ในการสร้างสรรค์ผลงานเท่านั้น และควรจะมีขอบเขตการทำงานร่วมกันระหว่าง AI กับมนุษย์อย่างไร ?
มนุษยชาติ กำลังเข้าใกล้พรมแดนใหม่ในด้านลิขสิทธิ์ ศิลปินบางคนเลือกใช้ AI เป็นเครื่องมือในการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นใหม่ ๆ โดยใช้วิธีการเขียนคำสั่ง (Prompt) บรรยายองค์ประกอบภาพที่ต้องการบนงานชิ้นนั้น แต่ในขณะเดียวกัน โมเดล AI ได้รับการฝึกฝน เรียนรู้ จากต้นแบบของงานศิลปะ “ดั้งเดิม” หรือเกิดจากการเรียนรู้ในการเขียนคำสั่งของผู้ใช้งาน ลองถูก ลองผิด
จึงเป็นคำถามที่ค่อนข้างท้าทายคนทำงานศิลปะในยุคนี้ว่า ลิขสิทธิ์ในงานศิลปะที่สร้างโดย AI ยังมีความจำเป็นอยู่ไหมที่ต้องใช้ “มือ” ของมนุษย์ในการสร้างสรรค์ผลงานเท่านั้น ?
ย้อนไปเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ “สตีเฟน เธเลอร์” ผู้พัฒนา AI ที่ชื่อว่า “Creativity Machine” ซึ่งเป็น AI ที่ใช้วาดภาพ พยายามอย่างยิ่งที่จะจดลิขสิทธิ์ภาพ ในฐานะ “เจ้าของผลงาน” ที่มีชื่อว่า “A Recent Entrance to Paradise” ซึ่งให้ AI ประมวลผลข้อมูลของภาพหลอนและเรื่องเล่าเกี่ยวกับชีวิตหลังความตาย จน AI ได้รังสรรค์ภาพดังกล่าวออกมา
เขาระบุว่า ผู้ที่ป้อนคำสั่ง Prompt (คือการเขียนคำอธิบายรายละเอียดในสิ่งที่ต้องการ เพื่อเป็นชุดข้อมูลสั่งการให้กับ AI ในการดึงประสิทธิภาพสูงสุดของ AI มาใช้ และตรงความต้องการมากที่สุด) จึงสมควรที่จะเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ผู้สร้างผลงาน แต่ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐฯ กลับไม่ได้คิดเช่นนั้น โดยมองว่า AI ไม่มีสิทธิ์ได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ เพราะขาดการสร้างสรรค์ของมนุษย์ ซึ่งการผลิตโดยมนุษย์นับเป็นข้อกำหนดพื้นฐานของการจดลิขสิทธิ์

AI เรียนรู้อย่างไร ?


ดร.ปริญญา หอมเอนก ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ กล่าวถึงเรื่องนี้กับ “Thai PBS Sci & Tech” เกี่ยวกับ Machine Learning Algorithm ของ AI อย่างหนึ่งคือ Reinforcement Learning ที่มีหลักการทำงานเหมือนกับมนุษย์ได้เรียนรู้บางอย่างด้วยการลองผิดลองถูก จนทำให้เกิดการเรียนรู้เกิดขึ้นระหว่างทางว่าการกระทำไหนดีหรือไม่ดี
ยกตัวอย่างการเรียนรู้ของ AI สร้างภาพวาดที่นิยมใช้กันอย่าง Midjourney เริ่มใช้กันมาหลายปีแล้ว โดยในช่วงแรก ๆ AI Generate ภาพออกมาไม่ได้สวยงามเหมือนอย่างทุกวันนี้ แต่ AI ได้เรียนรู้จากการ Reinforcement Learning ที่มนุษย์ได้สอน สร้าง ป้อนคำสั่ง ลงไป
“เช่น แกร์รี คาสปารอฟ แชมป์โลกหมากรุก แพ้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Deep Blue ของ IBM ขณะที่ DeepMind AI ของ Google สามารถเอาชนะ “อี-เซดอล” เซียนโกะแชมป์โลกชาวเกาหลีใต้ ได้ ด้วยวิธีการ Reinforcement Learning เช่นกัน ซึ่ง AI เหล่านี้เรียนรู้จากการเล่น หากเป็นมนุษย์ในชีวิตหนึ่งอาจจะเล่นหลักพันครั้ง แต่ AI เหล่านี้ เล่นเป็นล้านครั้ง เล่นทุก Scenario เดินหมากตัวไหนก่อนหลัง ขยับหมากผิดเพียงตัวเดียวก็แพ้แล้ว แต่ถ้าคุณอยากจะชนะคุณจะต้องเล่นใน Scenario ที่ AI เหล่านี้ ไม่เคยเล่นมาก่อน” ดร.ปริญญา อธิบาย

BACK TO TOP